รวม 10 นิคมอุตสาหกรรมชั้นนำของไทย : โอกาสของการหางาน

ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในศูนย์กลางอุตสาหกรรมที่สำคัญของภูมิภาคอาเซียน ด้วยจำนวน นิคมอุตสาหกรรมกว่า 66 แห่ง และ 1 ท่าเรืออุตสาหกรรม ใน 16 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งกระจายตัวอยู่ในทุกภูมิภาค ทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ทำให้เกิดการลงทุน การผลิต และการจ้างงานในวงกว้างต่อเนื่องทุกปี นิคมอุตสาหกรรมเหล่านี้ไม่เพียงแต่มีจำนวนบริษัทจำนวนมาก แต่ยังเป็นศูนย์รวมของบริษัทข้ามชาติที่มีค่าจ้างสูงและโอกาสก้าวหน้าทางอาชีพที่ดี ในบทความนี้จะพาไปรู้จัก  10 นิคมอุตสาหกรรมที่น่าทำงานที่สุดในประเทศไทย

1.นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี   นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี เป็นหนึ่งในนิคมอุตสาหกรรมที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ตั้งอยู่ในจังหวัดชลบุรี ใกล้กรุงเทพฯ และท่าเรือแหลมฉบัง  มีพื้นที่ 43 ตารางกิโลเมตร มีแรงงานในพื้นที่มากกว่า 200,000 คน ทำให้สะดวกต่อการขนส่งสินค้าและวัตถุดิบ อุตสาหกรรมหลักที่ตั้งอยู่ในนิคมนี้ ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า
ข้อดีของการทำงานที่นี่
– บริษัทญี่ปุ่น บริษัทไทยและบริษัทข้ามชาติจำนวนมาก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนเครื่องจักร
– ค่าแรงและสวัสดิการที่ดี เนื่องจากเป็นแหล่งอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
– ตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจสำคัญของภาคตะวันออก ใกล้กรุงเทพฯ และท่าเรือแหลมฉบัง
– ระบบโครงสร้างพื้นฐานครบครัน ทั้งไฟฟ้า น้ำประปา และระบบขนส่ง

2.นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ (ระยอง)  นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จังหวัดระยอง มีสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวก ครบครัน รองรับภาคการผลิตขนาดใหญ่และเหมาะกับอุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานเข้มข้นและธุรกิจส่งออก โดยมีโรงงานของกลุ่มอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ทั้งเหล็กกล้า โลหะ ยาง พลาสติก เคมีภัณฑ์ ยานยนต์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ข้อดีของการทำงานที่นี่
– ใกล้ท่าเรือแหลมฉบัง และสนามบินอู่ตะเภา เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการขนส่งสินค้าไปต่างประเทศ
– มีกลุ่มบริษัทชื่อดังจำนวนมาก อุตสาหกรรมหนัก เช่น ปิโตรเคมี ยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์
– โครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภคที่ทันสมัย

ที่มา : Amata City , IEAT

 

3.นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง) – ESIE

นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด ระยอง  นิคมนี้เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมยานยนต์ ปิโตรเคมี โลหะภัณฑ์ พลาสติกและโพลีเมอร์ มีบริษัทจากญี่ปุ่นและยุโรปจำนวนมากเข้ามาลงทุน ที่ตั้งอยู่ใกล้ท่าเรือมาบตาพุด ทำให้สะดวกต่อการนำเข้าและส่งออกสินค้า
ข้อดีของการทำงานที่นี่
– บริษัทที่ตั้งอยู่ในนิคมนี้ส่วนใหญ่มีค่าตอบแทนที่สูงและสวัสดิการที่ดี
– อยู่ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) มีสิทธิพิเศษด้านภาษีและการลงทุน
– ศูนย์กลางของอุตสาหกรรมยานยนต์ระดับโลก และโอกาสในการทำงานกับบริษัทข้ามชาติ
– เชื่อมต่อกับถนนมอเตอร์เวย์ ท่าเรือแหลมฉบัง และสนามบินอู่ตะเภา

ที่มา : ESIE , IEAT

4.สวนอุตสาหกรรมโรจนะ อยุธยา

สวนอุตสาหกรรมโรจนะ อยุธยา เป็นบริษัทร่วมทุนไทย-ญี่ปุ่น มีขนาดใหญ่ที่สุดในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาด้วยพื้นที่ทั้งหมด 12,000 ไร่ ภายในนิคมฯ มีบริษัทชั้นนำและแบรนด์ดังมากมายตั้งอยู่ ทั้งฐานการผลิตใหญ่ของรถยนต์ฮอนด้าและฐานการผลิตของกลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์ไฟฟ้า
ข้อดีของการทำงานที่นี่
– ตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจสำคัญของภาคกลาง สะดวกในการเดินทาง  ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 80 กม.
– รวมบริษัทอุตสาหกรรมด้านอิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ อาหารแปรรูปและอื่นๆอีกมากมาย
– มีระบบป้องกันน้ำท่วมที่ได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นหลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี 2554

ที่มา : Rojana ,  JobThai

5.นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 1 

ตั้งอยู่ในจังหวัดระยอง เป็นหนึ่งในพื้นที่อุตสาหกรรมที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศ โดย WHA Group ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโลจิสติกส์ที่สำคัญ มีอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ อุตสาหกรรมปิโตรเคมี อิเล็กทรอนิกส์ และยานยนต์  อยู่ห่างจากท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบังและศรีราชาเพียง 30 กิโลเมตร ทำให้ง่ายต่อการลำเลียงสินค้าส่งออกทางทะเล
ข้อดีของการทำงานที่นี่
– ตั้งอยู่ใกล้พื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจพิเศษของ EEC (Eastern Economic Corridor) ทำให้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว
– มีบริษัทด้านอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนเครื่องจักรที่มีเทคโนโลยีสูง
– ใกล้ท่าเรือและโครงข่ายขนส่งหลัก ทำให้การขนส่งวัตถุดิบและสินค้าเป็นไปอย่างรวดเร็ว

https://www.ieat.go.th/th/estates/39

ที่มา :  WHA ,  JobThai

6.เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมนวนคร ปทุมธานี 

เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมนวคร จังหวัดปทุมธานี มีพื้นที่ทั้งหมด 6,575 ไร่ และมีโรงงานตั้งอยู่กว่า 200 โรงงาน อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ 46 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ในด้านสาธารณูปโภคก็ถือว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งระบบไฟฟ้า ระบบน้ำประปา ระบบสื่อสารและระบบรักษาความปลอดภัย
ข้อดีของการทำงานที่นี่
– ตั้งอยู่ใกล้กรุงเทพฯ สะดวกในการเดินทาง เข้าถึงตลาดแรงงานได้ง่าย
– เป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรมอาหาร ยา เคมีภัณฑ์ และอิเล็กทรอนิกส์

ที่มา : Navanakorn

7.นิคมอุตสาหกรรมบางปู

นิคมอุตสาหกรรมบางปู เป็นนิคมอุตสาหกรรมนี้ตั้งอยู่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเดินทางไกล อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ อาหารและเครื่องดื่ม เคมีภัณฑ์ และอุตสาหกรรมยานยนต์
ข้อดีของการทำงานที่นี่
– ใกล้กรุงเทพฯ เดินทางสะดวก
– ค่าครองชีพไม่สูงมากเมื่อเทียบกับนิคมที่อยู่ห่างไกล
– มีงานที่หลากหลาย โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมเคมีระดับโลก อิเล็กทรอนิกส์ อาหารและโลจิสติกส์

ที่มา : Bangpoo IE

8.นิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์   

นิคมอุตสาหกรรมเวลโกรว์  นิคมตั้งอยู่ที่อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา เป็นที่ตั้งของบริษัทชั้นนำหลายแห่งที่มีชื่อเสียงในด้านต่าง ๆ นอกจากนี้ นิคมฯ ยังได้รับการพัฒนาให้เป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างยั่งยืน
ข้อดีของการทำงานที่นี่
– การเดินทางสะดวก เนื่องจากทำเลที่ตั้งบนถนนบางนา-ตราด กม.39 ใกล้กับกรุงเทพฯ
– ระบบสาธารณูปโภคที่ครบครัน เช่น ระบบน้ำประปา ไฟฟ้า โทรศัพท์ และระบบบำบัดน้ำเสีย

ที่มา : Wellgrow IE

9.นิคมอุตสาหกรรม 304 ปราจีนบุรี 

นิคมอุตสาหกรรม 304 ตั้งอยู่ที่จ.ปราจีนบุรี มีพื้นที่ทั้งหมด 19,000 ไร่ สร้างขึ้นภายใต้แนวคิด เมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศฯ ซึ่งเป็นการสร้างความสมดุลทั้งทางด้าน เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมและสังคม
ข้อดีของการทำงานที่นี่
– มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพราะตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจใหม่ของภาคตะวันออก ใกล้กับเส้นทางขนส่งไปยังกัมพูชาและเวียดนาม
– มีหลายบริษัทที่เข้ามาลงทุนสร้างโรงงานใหม่ทำให้มีการเปิดรับพนักงานจำนวนมาก
– ค่าครองชีพไม่สูง

ที่มา : 304 IE

10. นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ชลบุรี 

นิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง ชลบุรี  ตั้งอยู่ใกล้กับท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งเป็นท่าเรือน้ำลึกที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย นิคมนี้เป็นที่ตั้งของบริษัทในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ยานยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์
ข้อดีของการทำงานที่นี่
– ใกล้ท่าเรือทำให้บริษัทที่เกี่ยวข้องกับการนำเข้า-ส่งออกมีโอกาสสูงในการขยายตัวและเปิดรับคนงานมากขึ้นด้วย
– มีบริษัทญี่ปุ่นและข้ามชาติขนาดใหญ่มากมาย โดยเฉพาะบ.ยานยนต์และโลจิสติกส์
– ค่าตอบแทนสูงและมีโบนัสประจำปีที่ดี

ที่มา : IEAT

นิคมอุตสาหกรรมในไทย : โอกาสในการทำงานของคนรุ่นใหม่

ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในศูนย์กลางอุตสาหกรรมที่สำคัญของภูมิภาคอาเซียน ด้วยจำนวน นิคมอุตสาหกรรมกว่า 66 แห่ง และ 1 ท่าเรืออุตสาหกรรม ใน 16 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งกระจายตัวอยู่ในทุกภูมิภาค ทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ ทำให้เกิดการลงทุน การผลิต และการจ้างงานในวงกว้างต่อเนื่องทุกปี

ในภาคเหนือ เช่น นิคมอุตสาหกรรมลำพูน และ นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ (พิจิตร) เป็นพื้นที่สำคัญของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และสิ่งทอ ซึ่งเปิดโอกาสให้แรงงานฝีมือและผู้จบใหม่ในสาขาวิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยี และสายการผลิตได้เข้ามาเริ่มต้นอาชีพในภูมิลำเนาของตนเอง

ภาคกลางและภาคตะวันตก เช่น นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า, บางปะอิน, โรจนะ, และ สมุทรสาคร ถือเป็นหัวใจของการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ชิ้นส่วนเครื่องจักร และอุตสาหกรรมอาหาร ซึ่งมักต้องการแรงงานจำนวนมาก ทั้งในระดับปฏิบัติการ (Operator) ไปจนถึงระดับวิศวกรและผู้จัดการโรงงาน

ส่วน ภาคตะวันออก โดยเฉพาะพื้นที่ ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษที่รู้จักกันดีในชื่อ EEC (Eastern Economic Corridor) ซึ่งรวมเอานิคมขนาดใหญ่ เช่น อมตะซิตี้ ระยอง, เหมราชชลบุรี, อีสเทิร์นซีบอร์ด, และ มาบตาพุด ที่เน้นอุตสาหกรรมเป้าหมายแห่งอนาคต เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า (EV), ดิจิทัล, โลจิสติกส์ และพลังงานสะอาด นับเป็นพื้นที่ที่มีการเปิดรับพนักงานหลากหลายตำแหน่ง ทั้งช่างเทคนิค วิศวกร IT ไปจนถึงงานด้านสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัย (EHS)

ขณะที่ภาคใต้ เช่น นิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ (สงขลา) และ นิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ (สุราษฎร์ธานี) มีบทบาทด้านอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป ประมง และพลังงาน ซึ่งเป็นโอกาสของผู้ที่ต้องการทำงานในพื้นที่บ้านเกิดโดยไม่ต้องย้ายถิ่นฐาน

นอกจากนี้ รัฐบาลไทยและการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ยังมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนอย่างต่อเนื่อง เพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติและสร้างงานใหม่ ๆ รองรับแรงงานไทยทุกระดับ ตั้งแต่แรงงานทั่วไปจนถึงสายเทคนิคและวิชาชีพเฉพาะทาง โอกาสในการทำงานในนิคมอุตสาหกรรม จึงไม่ได้จำกัดเพียงในภาคการผลิตเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมถึงงานสนับสนุน เช่น โลจิสติกส์ บัญชี บุคคล การตลาด และบริการลูกค้าในโรงงานอีกด้วย โดยเฉพาะผู้ที่มีทักษะด้านภาษาอังกฤษหรือภาษาญี่ปุ่น ยิ่งมีโอกาสเข้าสู่บริษัทต่างชาติได้ง่ายขึ้น

ขอบคุณที่มาและข้อมูลอ้างอิง : ieat ,  jobthai.com

 

บริษัทจัดหางาน เพอร์ซันนแล คอนซัลแตนท์ฯ เราเป็นบริษัทจัดหางานญี่ปุ่นในกรุงเทพ เปิดให้บริการจัดหางานและสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถทั้งชาวไทยและญี่ปุ่นมาเป็นเวลา 30 ปี
สนใจหางาน อยากทำงานบริษัทญี่ปุ่น มาลงทะเบียนสมัครงานกับเพอร์ซันแนลฯ   ฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่าย  ต้องการฝากประวัติ Click
สอบถามเพิ่มเติม โทร 02-2608454 หรือ ส่งเรซูเม่ (ภาษาอังกฤษ) Email :  jobs@personnelconsultant.co.th