2025.06.10ภาษาญี่ปุ่น

สอบ JLPT ไว้ทำไม? คำตอบที่คนเรียนภาษาญี่ปุ่นต้องรู้

ความสำคัญของการสอบ JLPT ก้าวต่อไปของคนเรียนภาษาญี่ปุ่น

สำหรับผู้ที่กำลังเรียนภาษาญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นนักเรียน นักศึกษา หรือคนทำงาน การสอบวัดระดับความรู้ภาษาญี่ปุ่น (JLPT: Japanese-Language Proficiency Test) ถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญที่หลายคนตั้งใจจะผ่านให้ได้ เพราะ JLPT ไม่ใช่เพียงแค่ “ใบรับรอง” แต่คือ ก้าวสำคัญ ที่สะท้อนถึงความสามารถ ความพยายาม และโอกาสที่รออยู่ข้างหน้า

JLPT คืออะไร?

การสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาญี่ปุ่น หรือ JLPT (Japanese Language Proficiency Test – 日本語能力試験) คือ การสอบมาตรฐานระดับสากลที่จัดขึ้นเพื่อวัดและรับรองความสามารถในการใช้ภาษาญี่ปุ่นของชาวต่างชาติที่ไม่ได้ใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาแม่ เป็นการสอบที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากสถาบันการศึกษาและบริษัทต่างๆ ทั่วโลก รวมถึงในประเทศญี่ปุ่นเอง มีทั้งหมด 5 ระดับ คือ N5, N4, N3, N2 และ N1 การสอบ JLPT ไม่ใช่แค่การวัดความรู้ด้านไวยากรณ์และคำศัพท์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสามารถในการสื่อสารและเข้าใจภาษาญี่ปุ่นในสถานการณ์จริง

โดย JLPT จัดสอบปีละ 2 ครั้ง  คือ รอบที่ 1: ในวันอาทิตย์แรกของ เดือนกรกฎาคม  และรอบที่ 2: ในวันอาทิตย์แรกของ เดือนธันวาคม 

JLPT มีระดับอะไรบ้าง?

  1. • N5 (ง่ายที่สุด)  สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นเรียนภาษาญี่ปุ่น สามารถเข้าใจภาษาญี่ปุ่นพื้นฐานที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้เล็กน้อย เช่น คำศัพท์พื้นฐาน วลีง่ายๆ
  2. • N4  สามารถเข้าใจภาษาญี่ปุ่นพื้นฐานได้ดีขึ้นเล็กน้อย สามารถอ่านและเข้าใจประโยคสั้นๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้
  3. • N3  เป็นระดับที่เชื่อมระหว่าง N4/N5 กับ N1/N2 สามารถเข้าใจภาษาญี่ปุ่นที่ใช้ในชีวิตประจำวันได้ในระดับหนึ่ง และสามารถเข้าใจเนื้อหาที่ซับซ้อนขึ้นมาเล็กน้อย
  4. • N2  สามารถเข้าใจภาษาญี่ปุ่นที่ใช้ในสถานการณ์ชีวิตประจำวันได้ และสามารถเข้าใจภาษาญี่ปุ่นที่ใช้ในสถานการณ์ที่หลากหลายได้ในระดับหนึ่ง (มักเป็นระดับขั้นต่ำที่บริษัทญี่ปุ่นต้องการ)
  5. • N1 (ยากที่สุด)  แสดงถึงความเชี่ยวชาญในภาษาญี่ปุ่น สามารถเข้าใจภาษาญี่ปุ่นที่ใช้ในสถานการณ์ที่ซับซ้อนและเป็นทางการได้ดีเยี่ยม ใกล้เคียงกับเจ้าของภาษา

การสอบ JLPT มีอะไรบ้าง (โครงสร้างข้อสอบ)

การสอบ JLPT ในทุกระดับจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ เพื่อวัดความสามารถโดยรวมในการใช้ภาษาญี่ปุ่นเพื่อการสื่อสาร

1.ความรู้ตัวภาษา (文字・語彙・文法 – Moji・ Goi・Bunpou – ตัวอักษร/คำศัพท์/ไวยากรณ์)

  1. • ตัวอักษรและคำศัพท์ (文字・語彙): วัดความรู้เกี่ยวกับตัวอักษร (คันจิ ฮิรางานะ คาตาคานะ) คำศัพท์ และความหมายของคำ
  2. • ไวยากรณ์ (文法): วัดความเข้าใจในโครงสร้างประโยค รูปแบบไวยากรณ์ และการใช้ไวยากรณ์ในบริบทต่างๆ

2.การอ่าน (読解 – Dokkai)  วัดความสามารถในการอ่านและทำความเข้าใจบทความประเภทต่างๆ เช่น บทความสั้นๆ จดหมาย อีเมล ข่าว บทความในหนังสือพิมพ์ หรือนิตยสาร

3.การฟัง (聴解 – Choukai)  วัดความสามารถในการฟังและทำความเข้าใจบทสนทนา ข่าว การบรรยาย หรือข้อความต่างๆ ในสถานการณ์ที่หลากหลาย

คะแนนและเกณฑ์การผ่าน  คะแนนเต็มของแต่ละระดับคือ 180 คะแนน ผู้สอบจะต้องทำคะแนนรวมให้ผ่านเกณฑ์คะแนนรวมขั้นต่ำ และคะแนนในแต่ละส่วนย่อยจะต้องไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่กำหนดไว้ด้วย จึงจะถือว่าสอบผ่าน (เช่น N1 ต้องได้คะแนนรวม 100/180 และแต่ละพาร์ทไม่ต่ำกว่า 19 คะแนน)

ติดตามข่าวสารการจัดสอบได้ที่ https://www.ojsat.or.th/main/

อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมที่ JapanfoundationBangkok

ข้อดีของการมีผลสอบ JLPT

การสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาญี่ปุ่น (Japanese Language Proficiency Test หรือ JLPT) เป็นการสอบที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากลสำหรับผู้ที่ไม่ได้ใช้ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาแม่ มีประโยชน์หลากหลายด้าน ทั้งในด้านการศึกษา การทำงาน และการพัฒนาตนเอง

1.โอกาสทางการศึกษา

  1. • เรียนต่อในประเทศญี่ปุ่น มหาวิทยาลัย วิทยาลัย หรือโรงเรียนสอนภาษาในญี่ปุ่นหลายแห่งกำหนดให้ผู้สมัครชาวต่างชาติต้องมีผลสอบ JLPT ในระดับที่กำหนด (ส่วนใหญ่มักเป็น N2 หรือ N1) 
  2. • การขอทุนการศึกษา เช่น ทุนของรัฐบาลญี่ปุ่น (Monbukagakusho: MEXT) และทุนอื่นๆ มักใช้ผลสอบ JLPT เป็นหนึ่งในเกณฑ์การพิจารณา 

2.โอกาสทางอาชีพและการทำงาน

  1.  • เพิ่มโอกาสในการได้งานในบริษัทญี่ปุ่น โดยเฉพาะระดับ N2 และ N1 การมี JLPT ในเรซูเม่จะช่วยให้โดดเด่นกว่าผู้สมัครคนอื่นและเพิ่มโอกาสในการถูกเรียกสัมภาษณ์
  2.  • การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในที่ทำงาน ลดความเข้าใจผิด
  3.  • โอกาสในการก้าวหน้าในอาชีพ ได้แแก่ การเลื่อนตำแหน่ง 
  4.  • มีค่าภาษา/เงินเดือนที่สูงขึ้น บริษัทญี่ปุ่นจำนวนมากมีค่าภาษาหรือเสนอเงินเดือนที่สูงขึ้น
  5.  • เพิ่มความน่าเชื่อถือในธุรกิจ เป็นข้อได้เปรียบในการเจรจา การติดต่อสื่อสาร และการสร้างเครือข่ายทางธุรกิจ

3.ประโยชน์ส่วนบุคคลและการพัฒนาตนเอง

  1.  • วัดระดับความสามารถตนเอง ทำให้เห็นถึงจุดแข็ง จุดอ่อน และวางแผนการพัฒนาภาษาต่อไปได้
  2.  • สร้างความมั่นใจ การสอบผ่าน JLPT ในแต่ละระดับจะเป็นแรงผลักดันให้เรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นต่อไป
  3.  • เข้าใจวัฒนธรรมและความคิดของชาวญี่ปุ่นมากขึ้น ซึ่งช่วยให้เข้าใจและปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมญี่ปุ่นได้ดีขึ้น
  4.  • ประสบการณ์ในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะการใช้ชีวิตในญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง การซื้อของ การติดต่อราชการ หรือการสร้างมิตรภาพ

JLPT ไม่ได้เป็นเพียงการสอบวัดระดับภาษาเท่านั้น แต่ยังเป็นกุญแจสำคัญที่เปิดประตูสู่โอกาสมากมายทั้งในด้านการศึกษา การทำงาน และการใช้ชีวิตในโลกของภาษาญี่ปุ่นอย่างมั่นใจและมีประสิทธิภาพ หากคุณกำลังมองหางานภาษาญี่ปุ่น สามารถฝากประวัติกับเราได้ทันที

 

บริษัทจัดหางาน เพอร์ซันแนล คอนซัลแตนท์ฯ เราเป็นบริษัทจัดหางานญี่ปุ่นในกรุงเทพ เปิดให้บริการจัดหางานและสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถทั้งชาวไทยและญี่ปุ่นมาเป็นเวลากว่า 30 ปี
หางานและสนใจทำงานบริษัทญี่ปุ่น สมัครงานกับเพอร์ซันแนลฯ   ฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่าย
สำหรับผู้ที่ต้องการหางาน สามารถลงทะเบียนฝากประวัติ Click
สอบถามเพิ่มเติม โทร 02-2608454 / Email : jobs@personnelconsultant.co.th