2025.07.14หางาน • สัมภาษณ์งาน

10 Soft Skills สำหรับ First Jobber ที่ช่วยให้เรซูเม่โดดเด่นทันที

10 Soft Skills สำหรับ First Jobber ที่ช่วยให้เรซูเม่โดดเด่นทันที

สำหรับน้องๆ ที่เพิ่งจบใหม่ Soft Skills คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้บริษัทเห็น “ศักยภาพ” ของเรา แม้ยังไม่มีประสบการณ์จริงมากนักก็ตาม และที่สำคัญ Soft Skills ยังเป็นสิ่งที่หลายบริษัท (โดยเฉพาะบริษัทต่างชาติ) ให้ความสำคัญไม่แพ้ Hard Skills เลย ดังนั้น ในบทความนี้เราขอแนะนำ Soft Skills ที่น้องจบใหม่ควรใส่ลงในเรซูเม่ พร้อมคำแนะนำว่าเขียนอย่างไรให้โดนใจ HR และผู้ว่าจ้าง เพื่อเพิ่มโอกาส “ได้ไปต่อ” ในรอบสัมภาษณ์งาน

ทำไม Soft Skills ถึงสำคัญในเรซูเม่ของน้องจบใหม่?

1.แสดงศักยภาพในการเรียนรู้และเติบโต บริษัทมองหาคนที่ “เรียนรู้ไว” และ “พร้อมปรับตัว”  เช่น ความสามารถในการรับฟัง ทำงานร่วมกับทีม หรือคิดวิเคราะห์ คือสิ่งบ่งบอกถึงศักยภาพนี้ได้ดี
2.เป็นจุดเด่นเมื่อยังไม่มีประสบการณ์ทำงาน เด็กจบใหม่อาจไม่มีผลงานหรือประวัติการทำงานมากนัก การใส่ Soft Skills จะช่วยทำให้เรซูเม่น่าสนใจขึ้น และเพิ่มเนื้อหาให้สมบูรณ์
3.ช่วยให้ HR ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น HR ใช้เวลาเฉลี่ยแค่ 6–8 วินาที ในการดูเรซูเม่เบื้องต้น การใส่ Soft Skills ไว้อย่างชัดเจนและตรงประเด็น จะช่วยให้เรซูเม่ของคุณไม่ถูกมองข้าม

รวม Soft Skills ที่น่าสนใจสำหรับเด็กจบใหม่ พร้อมตัวอย่างการเขียน

1.Communication Skills (ทักษะการสื่อสาร) การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพทั้งการพูดและการฟัง รวมถึงการเขียนที่ชัดเจนและเข้าใจง่าย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการทำงานร่วมกับผู้อื่น
ตัวอย่างในเรซูเม่:
-มีทักษะในการนำเสนอ และเคยนำเสนอโครงงานต่อหน้าคณะกรรมการได้อย่างมั่นใจ
-เขียนรายงานการวิจัยระดับมหาวิทยาลัยที่ได้รับคัดเลือกให้นำเสนอในงานวิชาการ

2. Teamwork & Collaboration (การทำงานเป็นทีม) สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ตัวอย่างในเรซูเม่:
– เคยเป็นหัวหน้าทีมโปรเจกต์ที่รวมเพื่อนต่างสาขา เพื่อจัดกิจกรรมช่วยเหลือสังคม
– ทำงานกลุ่มในวิชาหลักโดยรับผิดชอบบทบาทการวางแผนและประสานงาน

3. Adaptability (การปรับตัว) การเรียนรู้และปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์และสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปได้ พร้อมรับการเปลี่ยนแปลง รวมถึงการเปิดใจรับความรู้และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็ว และมีความยืดหยุ่นในการทำงาน
ตัวอย่างในเรซูเม่:
– สามารถเรียนรู้และใช้งานเครื่องมือใหม่ เช่น Microsoft Teams และ Trello ระหว่างเรียนออนไลน์ในช่วงโควิด
– ปรับแผนการทำงานกลุ่มให้เหมาะกับสถานการณ์เมื่อสมาชิกบางคนไม่สามารถเข้าร่วมได้

4. Critical Thinking & Problem Solving (การคิดวิเคราะห์และแก้ปัญหา) การคิดอย่างเป็นเหตุเป็นผล มีมุมมองหลากหลาย วิเคราะห์ข้อมูล และแก้ปัญหาอย่างมีระบบและสร้างสรรค์ ไม่ใช่แค่การทำตามคำสั่ง
ตัวอย่างในเรซูเม่:
– เคยร่วมกิจกรรมแข่งขัน Case Study ระดับมหาวิทยาลัย โดยรับผิดชอบวิเคราะห์ SWOT และแผนกลยุทธ์
– วิเคราะห์ต้นเหตุของปัญหาในโครงงานและเสนอแนวทางแก้ไขที่สามารถนำไปใช้จริงได้

5. Time Management (การบริหารเวลา) สามารถจัดลำดับความสำคัญของงาน การวางแผนและจัดการเวลาให้มีประสิทธิภาพเพื่อให้ทำงานและส่งงานได้ตามกำหนดเวลา
ตัวอย่างในเรซูเม่:
– ส่งรายงานโปรเจกต์สำคัญก่อนกำหนดเวลา แม้มีงานหลายวิชาพร้อมกัน
– ใช้เครื่องมือ Google Calendar และ To-do list ในการจัดตารางการเรียนและกิจกรรมนักศึกษา

6. Leadership (ภาวะผู้นำ) สามารถริเริ่ม นำทีม กล้าตัดสินใจ รับผิดชอบ เพื่อนำทีมไปสู่เป้าหมาย สร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อื่น โดยไม่จำเป็นต้องเป็นหัวหน้าเสมอไป
ตัวอย่างในเรซูเม่:
– ได้รับเลือกเป็นประธานชมรมนักศึกษา และจัดกิจกรรมให้กับนักศึกษามากกว่า 100 คน
– นำทีมในโครงการจิตอาสา โดยประสานงานกับองค์กรท้องถิ่นสำเร็จตามเป้าหมาย

7. Growth Mindset (มีแนวคิดพัฒนาและเปิดรับสิ่งใหม่) มองว่าทุกปัญหาเป็นโอกาสในการเรียนรู้
ตัวอย่างในเรซูเม่:
– สนใจเรียนรู้สิ่งใหม่ จึงลงคอร์สออนไลน์เพิ่มเติมด้าน UX/UI แม้เรียนจบสายบริหารธุรกิจ
– มีความตั้งใจในการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เช่น การฝึกทักษะภาษาอังกฤษจากคลาสฟรีบน YouTube

8.ทักษะด้านดิจิทัล (Digital Literacy) ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและเครื่องมือต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
ตัวอย่างในเรซูเม่:
– มีความสามารถในการใช้ Microsoft Office, Google Workspace และ Canva สำหรับทำรายงานและงานนำเสนอ
– เรียนรู้การใช้โปรแกรม Zoom, Microsoft Teams และระบบ e-Learning ในการเรียนและนำเสนอผลงานในช่วงโควิด-19

9.ทักษะความฉลาดทางอารมณ์ (Emotional Intelligence) ความสามารถในการเข้าใจและจัดการอารมณ์ของตนเองและผู้อื่น รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในการทำงาน
ตัวอย่างในเรซูเม่:
– สามารถควบคุมอารมณ์ภายใต้แรงกดดัน เช่น การนำเสนองานต่อหน้าผู้บริหารมหาวิทยาลัย

10.ทักษะความยืดหยุ่นและการรับแรงกดดัน (Resilience)  ความสามารถในการเผชิญหน้ากับความล้มเหลว เรียนรู้จากข้อผิดพลาด และการฟื้นตัวจากสถานการณ์ที่ยากลำบาก
ตัวอย่างในเรซูเม่:
– เคยรับผิดชอบโปรเจกต์ที่มีข้อผิดพลาดช่วงเริ่มต้น แต่สามารถปรับแผนและส่งงานได้ตามกำหนด
– ผ่านการฝึกงานในช่วงวิกฤตโควิด และสามารถทำงานในระบบ Hybrid ได้โดยไม่กระทบคุณภาพของงาน

เคล็ดลับการเขียน Soft Skills อย่างไรให้ดูจริง ไม่เวอร์
• อย่าใส่แค่ “มีทักษะการสื่อสารดี” แล้วจบ ➜ ให้เพิ่มตัวอย่างหรือกิจกรรมที่แสดงให้เห็นว่าเรามีทักษะนั้นจริง
• อย่าใส่ทักษะที่ไม่เกี่ยวข้องกับงานที่สมัคร ➜ พยายามเลือก Soft Skills ที่ตรงกับตำแหน่ง หรือเป็นที่ต้องการของบริษัท
• ใช้คำที่เป็นบวก และแสดงความเป็นมืออาชีพ ➜ หลีกเลี่ยงคำพูดลอยๆ เช่น “เก่งทุกอย่าง” ให้ใช้คำที่วัดผลได้บางส่วน

Soft Skills คือกุญแจสำคัญที่น้องจบใหม่ต้องใส่ใจ แม้จะยังไม่มีประสบการณ์การทำงาน แต่การเขียนเรซูเม่ให้โดดเด่นด้วย Soft Skills ที่เหมาะสม จะช่วยสร้างความประทับใจแรกให้กับ HR และเพิ่มโอกาสได้เข้าสู่รอบสัมภาษณ์อย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นควรเลือกใส่ Soft Skills อย่างตั้งใจ สื่อสารให้ชัดเจน และสะท้อนความเป็นตัวตนของคุณ

ที่มา Blogjobthai

 

บริษัทจัดหางาน เพอร์ซันแนล คอนซัลแตนท์ฯ เราเป็นบริษัทจัดหางานญี่ปุ่นในกรุงเทพ  ให้บริการจัดหางานและสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถทั้งชาวไทยและญี่ปุ่นมาเป็นเวลากว่า 30 ปี ท่านที่สนใจหางาน อยากทำงานบริษัทญี่ปุ่น ไทยและต่างชาติ  ลงทะเบียนสมัครงานกับเพอร์ซันแนลฯ   ฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่าย
ต้องการฝากประวัติ https://www.personnelconsultant.co.th/jobseeker/register_jobseeker/
สอบถามโทร 02-2608454 หรือส่งเรซูเม่ (ภาษาอังกฤษ) jobs@personnelconsultant.co.th

Contact & Follow Us