รายงานการลงทุนจากต่างชาติครึ่งปีแรก 2568 (มค. – มิย.) ll สัญญาณบวกต่ออุตสาหกรรมวิศวกรรมและบริษัทญี่ปุ่น
การลงทุนในไทยครึ่งแรกปี 2568 : สัญญาณบวกต่ออุตสาหกรรมวิศวกรรมและบริษัทญี่ปุ่น
จากรายงาน สถิติการลงทุนจากต่างประทเศ ของคณะกกรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เปิดเผยว่า ในครึ่งปีแรก 2568 (ม.ค.–มิ.ย.) มีคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ 1,880 โครงการ เพิ่มขึ้นกว่า 38% รวมมูลค่า 1.06 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 138% จากปีก่อน โดยกลุ่มอุตสาหกรรมหลักที่ได้รับการลงทุนสูง 5 อันดับแรก ได้แก่
อันดับ 1 ดิจิทัล: 522,577 ล้านบาท
อันดับ 2 อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ: 125,786 ล้านบาท
อันดับ 3 ยานยนต์และชิ้นส่วน: 45,195 ล้านบาท
อันดับ 4 พลังงานหมุนเวียน: 42,238 ล้านบาท
อันดับ 5 เกษตรและอาหาร: 30,785 ล้านบาท
นอกจากนี้ นักลงทุนต่างชาติยังคงมั่นใจ โดยมีโครงการ FDI 1,369 โครงการ มูลค่า 737,572 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 132% สำหรับ 5 ประเทศ/เขตเศรษฐกิจหลักที่ลงทุนมากที่สุด ได้แก่ สิงคโปร์, ฮ่องกง, จีน, สหราชอาณาจักร และญี่ปุ่น ตามลำดับ (ญี่ปุ่นลงทุนกว่า 49,819 ล้านบาท) โดยพื้นที่ที่มีการลงทุนมากที่สุดคือ EEC (ภาคตะวันออก) มูลค่า 660,631 ล้านบาท ซึ่ง BOI คาดว่าการลงทุนดังกล่าวจะก่อให้เกิดการจ้างงานคนไทยกว่า 110,000 ตำแหน่ง
การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในประเทศไทยยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ข้อมูลล่าสุดจาก BOI สะท้อนว่าไทยยังคงเป็นจุดหมายการลงทุนสำคัญในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับ ดิจิทัล อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้าอัจฉริยะ และยานยนต์สมัยใหม่
สิ่งที่น่าสนใจคือ มีหลายโครงการลงทุนที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับ การผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (EV), เซมิคอนดักเตอร์ และ Data Center ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคตที่ใช้ บุคลากรด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น วิศวกรรมไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ เมคคาทรอนิกส์ หรือคอมพิวเตอร์
สำหรับ บริษัทญี่ปุ่น ในประเทศไทย แม้จะเผชิญการแข่งขันและแรงกดดันจากภาวะต้นทุน แต่ยังคงเดินหน้าขยายการลงทุน โดยเฉพาะใน ยานยนต์และชิ้นส่วน ซึ่งยังคงเป็นฐานการผลิตหลักของญี่ปุ่นในภูมิภาค นอกจากนี้ การเปลี่ยนผ่านไปสู่ รถยนต์ไฟฟ้าและระบบอัตโนมัติ ทำให้บริษัทญี่ปุ่นต้องการแรงงานที่มีทักษะด้าน Automation, Digital Engineering และภาษาญี่ปุ่น มากขึ้น เพื่อเชื่อมต่อการทำงานกับสำนักงานใหญ่ในญี่ปุ่น
การลงทุนกว่า 49,819 ล้านบาทจากญี่ปุ่นในครึ่งปีแรก จึงไม่เพียงตอกย้ำความมั่นใจของนักลงทุนญี่ปุ่นที่มีต่อประเทศไทย แต่ยังสะท้อนถึงความต้องการบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญสูงในสายงานวิศวกรรม ซึ่งปัจจุบันยังเป็นกลุ่มที่ตลาดแรงงานไทยผลิตได้ไม่เพียงพอ โดยเฉพาะสาขา Mechanical, Electrical และ Mechatronics Engineering
โอกาสสำหรับแรงงานไทย
1.ความต้องการสูง: อุตสาหกรรมหลักที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ต้องอาศัยทักษะด้านวิศวกรรมจำนวนมาก
2.ขาดแคลนแรงงานตรงสาย: ช่องว่างระหว่างตำแหน่งงานกับจำนวนบัณฑิตในสาขาวิศวกรรม ยังเป็นความท้าทาย
3.ทักษะเสริมคือกุญแจ: บัณฑิตใหม่ที่มีทักษะด้านดิจิทัล (เช่น IoT, AI, Automation)
4.ความสามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้ จะมีความได้เปรียบอย่างมากในการเข้าสู่ตลาดงาน
การเติบโตของการลงทุนในไทย โดยเฉพาะจากบริษัทญี่ปุ่น เป็นทั้ง ความท้าทายและโอกาส สำหรับแรงงานไทยในสาย STEM ขณะที่ BOI คาดว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มกว่า 110,000 ตำแหน่งในปีนี้ แต่คำถามสำคัญคือ แรงงานไทยพร้อมหรือยังที่จะตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนไป? การเร่งพัฒนาทักษะวิศวกรรมควบคู่กับดิจิทัลและภาษาต่างประเทศ จะเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้แรงงานไทยสามารถยืนหนึ่งในตลาดการจ้างงานระยะยาว
บริษัทจัดหางาน เพอร์ซันแนล คอนซัลแตนท์ฯ เราเป็นบริษัทจัดหางานญี่ปุ่นในกรุงเทพ ให้บริการจัดหางานและสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถทั้งชาวไทยและญี่ปุ่นมาเป็นเวลากว่า 30 ปี ท่านที่สนใจหางาน อยากทำงานบริษัทญี่ปุ่น ไทยและต่างชาติ ลงทะเบียนสมัครงานกับเพอร์ซันแนลฯ ฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่าย
ต้องการฝากประวัติ Click
สอบถามโทร 02-2608454 หรือส่งเรซูเม่ (ภาษาอังกฤษ) jobs@personnelconsultant.co.th
Contact & Follow Us
