2025.09.19เกี่ยวกับเพอร์ซันแนล

7 เคล็ดลับสร้างสมดุลชีวิตและงานให้ลงตัว

คุณเคยรู้สึกไหมว่าทำงานหนักจนแทบไม่มีเวลาให้ตัวเอง?

หลายครั้งเราอาจมองข้ามเวลาส่วนตัวและโฟกัสแต่เรื่องงานเพียงอย่างเดียว จนทำให้ร่างกายและจิตใจเหนื่อยล้า การสร้าง Work-Life Balance หรือการสร้าง สมดุลชีวิต จึงไม่ใช่เรื่องฟังดูดีเพียงอย่างเดียว แต่เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ชีวิตมีคุณภาพและทำให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ไม่ว่าคุณจะเป็นพนักงานออฟฟิศ ฟรีแลนซ์ หรือผู้ประกอบการ ทุกคนสามารถเจอกับความเครียด ความเหนื่อยล้า หรือ ภาวะหมดไฟ (Burnout) ได้ทั้งนั้น การรู้จัก จัดการชีวิตการทำงาน อย่างเป็นระบบ จึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ทั้งงานและชีวิตส่วนตัวไปด้วยกันได้

วันนี้เราจะมาแชร์ 7 เคล็ดลับง่าย ๆ แต่ทำได้จริง เพื่อให้ชีวิตและงานเดินไปด้วยกันอย่างมีความสุข

1. แบ่งเวลาให้ชัดเจนระหว่างงานกับชีวิตส่วนตัว

หลายคนเจอปัญหากลับบ้านแล้วงานยังตามมา ทั้งอีเมล แชท หรือแจ้งเตือนอื่น ๆ จนเวลาพักแทบไม่ต่างจากเวลางาน การตั้งเวลาให้ชัดเจนช่วยให้ชีวิตมี สมดุลชีวิต มากขึ้น ซึ่งหลักง่าย ๆ ที่หลายคนใช้คือ 8:8:8 (8 ชั่วโมงทำงาน 8 ชั่วโมงพักผ่อน และ 8 ชั่วโมงใช้ชีวิตส่วนตัว) อาจเริ่มจากการ กำหนดเวลาเลิกงานที่ชัดเจนและไม่ตอบอีเมลงานหลังจากนั้น หรือใช้วันหยุดอย่างเต็มที่สำหรับกิจกรรมที่ตัวเองชอบ

การแบ่งเวลาแบบนี้ไม่เพียงช่วยให้ร่างกายและจิตใจได้พักอย่างเพียงพอ แต่ยังทำให้คุณสามารถโฟกัสกับงานและสนุกกับชีวิตส่วนตัวได้อย่างเต็มที่อีกด้วย

2. วางแผนงานและเวลาส่วนตัวอย่างสมดุล

การจัดลำดับความสำคัญของงานไม่ใช่เรื่องที่ยุ่งยาก แต่เป็นวิธีที่ช่วยให้คุณ จัดการชีวิตการทำงาน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • เริ่มต้นวันด้วยการทำ To-Do List หรือจดสิ่งที่ต้องทำในแต่ละวัน
  • แบ่งงานตามความสำคัญและความเร่งด่วน
  • เผื่อเวลาพักสั้น ๆ ระหว่างวันเพื่อชาร์จพลัง

การวางแผนแต่ละวันจะช่วยให้คุณมีสมาธิและโฟกัสกับงานได้ดีขึ้น ทำให้คุณรู้อย่างชัดเจนว่าสิ่งไหนควรทำก่อนหรือหลัง และสามารถจัดการงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ยังช่วยให้คุณใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่า ทั้งในเรื่องงานและชีวิตส่วนตัว ทำให้คุณสามารถแบ่งเวลาให้ครอบครัว การพัฒนาตัวเอง หรือกิจกรรมที่ชอบได้ และเมื่อคุณทำตามแผนได้สำเร็จ จะทำให้รู้สึกมีความสุข มีกำลังใจ และพร้อมรับมือกับงานในวันถัดไปอีกด้วย

3. หมั่นดูแลสุขภาพกายและใจ

สุขภาพกายและใจเป็นพื้นฐานของการสร้าง สมดุลชีวิต หากร่างกายเจ็บป่วยหรือจิตใจอ่อนล้า การทำงานจะเต็มไปด้วยความเครียดและไม่สนุก บางครั้งความเครียดมาก ๆ อาจทำให้เรารู้สึกหมดแรง หรือไม่รู้จะก้าวไปต่ออย่างไร ซึ่งเป็นสัญญาณของ ภาวะหมดไฟ (Burnout) ที่ส่งผลกระทบต่อทั้งชีวิตการทำงานและความสุขของเรา

ดังนั้น การแบ่งเวลาให้ตัวเองได้ดูแลทั้งสุขภาพกายและใจจึงเป็นเรื่องสำคัญ สามารถเริ่มจากกิจกรรมง่าย ๆ เช่น ออกกำลังกายเบา ๆ รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ฝึกสมาธิ หรือทำกิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย สิ่งเหล่านี้จะช่วยเติมพลังให้ร่างกายและจิตใจ พร้อมสร้างแรงบันดาลใจและความกระตือรือร้นในการทำงานมากยิ่งขึ้น

4. รู้จัก “ปฏิเสธ” ให้เป็น

เราไม่จำเป็นต้องรับทุกงานมาทำเองคนเดียว การเรียนรู้ที่จะปฏิเสธอย่างเหมาะสม ไม่เพียงช่วยลดความเครียด แต่ยังทำให้คุณมีเวลาและพลังไปโฟกัสกับงานที่สำคัญจริง ๆ ได้มากขึ้น การปฏิเสธอย่างสุภาพและชัดเจน ยังช่วยให้คนรอบข้างเข้าใจขอบเขตการทำงานของคุณ และเปิดโอกาสให้ทีมสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม

สิ่งนี้ยังเชื่อมโยงกับ ข้อที่ 2 การวางแผนวันอย่างชัดเจน เพราะเมื่อเรารู้จักเลือกและจัดลำดับความสำคัญของงานได้ถูกต้อง ก็จะง่ายต่อการตัดสินใจว่า งานใดควรทำก่อน งานใดสามารถมอบหมาย หรือแม้แต่ปฏิเสธได้อย่างเหมาะสม ซึ่งทั้งหมดนี้คือกุญแจสำคัญในการสร้างสมดุลระหว่างงานและชีวิตส่วนตัว

5. สร้างกิจวัตรประจำวันที่ยืดหยุ่น

การวางแผนงานอย่างชัดเจนช่วยให้ชีวิตมีโครงสร้างและจัดการเวลาได้ง่ายขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ควรยืดหยุ่นพอที่จะปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ได้โดยไม่เสียสมดุลในชีวิต การสร้างกิจวัตรที่เหมาะสมและไม่ตึงเกินไป จะช่วยให้คุณใช้ชีวิตได้อย่างเป็นระบบ และพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต

6. ใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด

ที่จริงแล้ว…เทคโนโลยีก็เป็นผู้ช่วยที่ดีในการ จัดการชีวิตการทำงาน ได้นะ!

เพียงเลือกใช้แอปหรือเครื่องมือที่ช่วยวางแผนเวลา ติดตามงาน จัดเวลาการทำงานบ้าน หรือแม้แต่แจ้งเตือนเรื่องสำคัญ ก็จะทำให้ทุกอย่างเป็นระบบและประหยัดเวลาได้มากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็ควรใช้โซเชียลมีเดียอย่างพอดี เพราะหากใช้มากเกินไปอาจทำให้เสียสมาธิ และเผลอใช้เวลาที่มีค่าไปโดยไม่รู้ตัว

7. ให้รางวัลตัวเอง

เมื่อคุณทำงานหรือจัดการชีวิตได้ตามเป้าหมาย อย่าลืมให้รางวัลเล็ก ๆ น้อย ๆ กับตัวเองบ้าง ไม่ว่าจะเป็นการทานอาหารจานโปรด การพักผ่อนให้เต็มที่ หรือทำกิจกรรมที่คุณชอบ วิธีนี้จะช่วยสร้างแรงจูงใจ เติมพลังบวก และเพิ่มความสุขให้กับการทำงานและการใช้ชีวิตในทุก ๆ วัน

ทั้ง 7 ข้อนี้เป็นวิธีง่าย ๆ ที่ทุกคนสามารถเริ่มทำได้ทันที แค่เริ่มจากตัวเองทีละน้อย ชีวิตและงานก็จะเดินไปด้วยกันโดยไม่ทำให้เรารู้สึกเหนื่อยล้า การสร้าง สมดุลชีวิต อาจดูเหมือนเรื่องยาก แต่จริง ๆ แล้วเริ่มจากการดูแลตัวเอง วางแผนให้รอบคอบ ใช้เทคโนโลยีช่วยจัดการเวลา และอย่าลืมเติม พลังใจ ให้ตัวเองทุกวัน เพียงเท่านี้ก็ช่วยป้องกันภาวะหมดไฟ และทำให้เรามีความสุขทั้งในการทำงานและชีวิตส่วนตัวได้อย่างแน่นอน

Sources : HREX.asia, MedPark, Krungsri, OKAMURA

บริษัทจัดหางาน เพอร์ซันแนล คอนซัลแตนท์ฯ เราเป็นบริษัทจัดหางานญี่ปุ่นในกรุงเทพ ให้บริการจัดหางานและสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถทั้งชาวไทยและญี่ปุ่นมาเป็นเวลากว่า 30 ปี

ท่านที่สนใจหางาน อยากทำงานบริษัทญี่ปุ่น ไทยและต่างชาติ ลงทะเบียนสมัครงานกับเพอร์ซันแนลฯ ฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย
ต้องการฝากประวัติ Click
สอบถามเพิ่มเติม โทร 02-2608454 หรือส่งเรซูเม่ (ภาษาอังกฤษ) อีเมล jobs@personnelconsultant.co.th

Contact & Follow Us