นักท่องเที่ยวต้องรู้! ไปญี่ปุ่นปี 2026 มีอะไรอัปเดตบ้าง?
นักท่องเที่ยวต้องรู้! ไปญี่ปุ่นปี 2026 มีอะไรอัปเดตบ้าง?
ปี 2026 การท่องเที่ยวญี่ปุ่นกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่นักเดินทางห้ามพลาด ตั้งแต่กฎใหม่เรื่อง การช้อปปิ้งปลอดภาษี (Tax-Free Shopping) ไปจนถึง การจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวในบางแหล่งดัง รวมถึงระบบ Dual Pricing ที่อาจทำให้ค่าใช้จ่ายของคุณเปลี่ยนไป ใครที่วางแผนจะไปญี่ปุ่นปีหน้า ต้องเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อไม่ให้พลาดประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ราบรื่นและคุ้มค่าที่สุด
1. สิ้นสุด Tax-Free
ญี่ปุ่นเตรียมจะยกเลิกการซื้อสินค้าปลอดภาษีแบบไม่ต้องจ่าย VAT ที่ร้าน (Tax Free) แปลง่ายๆ ก็คือการยกเลิก Tax Free แล้วเปลี่ยนเป็น Tax Refund ดังนั้น นักท่องเที่ยวจะต้องจ่ายเต็มราคาตอนซื้อสินค้าโดยอัตราภาษีของญี่ปุ่นมี 10% และ 8% ขึ้นอยู่กับสินค้า จากนั้นต้องไปขอคืนภาษีที่จุดรับคืนภาษีหรือสนามบินก่อนเดินทางออกนอกประเทศ เหตุผลในการเปลี่ยนระบบญี่ปุ่นต้องการป้องกันการใช้ระบบ Tax Free อย่างผิดวัตถุประสงค์ ลดการหลีกเลี่ยงภาษี และทำให้การตรวจสอบเป็นไปอย่างโปร่งใสยิ่งขึ้น (**คาดว่าจะเริ่มใช้มาตรการ Tax Refund ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2026 เป็นต้นไป)
Tips
• เก็บใบเสร็จหรือเอกสารที่เกี่ยวข้องไว้ให้ครบ รวมถึงเตรียมพาสปอร์ต
• เผื่อเวลาเพิ่มอย่างน้อย 30–60 นาทีที่สนามบิน
2. ระบบราคาคู่ (Dual Pricing)
ระบบราคาคู่ (Dual Pricing) คือการกำหนดราคาสินค้าหรือบริการแตกต่างกันระหว่าง “คนญี่ปุ่น” กับ “นักท่องเที่ยวต่างชาติ” ซึ่งญี่ปุ่นเริ่มใช้ ราคาต่างกันระหว่างคนญี่ปุ่นกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตามร้านอาหารหรือแหล่งท่องเที่ยว เช่น ปราสาทฮิเมจิ (Himeji Castle) คนญี่ปุ่นจ่าย 1,000 เยน แต่นักท่องเที่ยวอาจต้องจ่าย 2,000–3,000 เยน
Tips
• วางแผนงบค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆเผื่อไว้มากกว่าปกติ
• หาข้อมูลล่วงหน้าว่าสถานที่ไหนมีราคาคู่
• บางเมืองหรือแหล่งท่องเที่ยวเล็ก ๆ ยังราคาปกติ แนะนำการเที่ยวนอกเมือง/เมืองรอง
3. การจองล่วงหน้าและจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว
อย่างที่เราก็ทราบกันว่าตอนนี้ที่ญี่ปุ่นหลายๆ พื้นที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก (overtourism) ดังนั้นเพื่อแก้ปัญหา overtourism หลายที่เริ่มจำกัดจำนวนผู้เข้าชมต่อวัน เช่น ภูเขาไฟฟูจิ (เส้นทาง Yoshida Trail) ที่ต้องลงทะเบียนปีนเขาจำกัดผู้ปีนเขาต่อวัน ~4,000 คนและเก็บค่าธรรมเนียม หรือ ย่าน Gion กรุงเกียวโต มีมาตรการห้ามนักท่องเที่ยวเข้าถนนบางซอย จำกัดการละเมิดมารยาทและป้องกันผลกระทบต่อชุมชน
Tips
• ตรวจสอบเว็บไซต์แหล่งท่องเที่ยวว่าจะต้องจองล่วงหน้าหรือไม่
• สำหรับที่ฮิต ๆ เช่น TeamLab, ภูเขาฟูจิ, สวนสนุกญี่ปุ่น ควรจองตั้งแต่ไทย
• ถ้าชอบสบาย ๆ แนะนำไปเที่ยวช่วง Low Season เช่น พฤษภาคม หรือพฤศจิกายน
4. ค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น
แม้เงินเยนอ่อนทำให้คนต่างชาติ/นักท่องเที่ยวดูเหมือนจะคุ้มค่ามากขึ้น แต่จริง ๆ แล้วผู้ประกอบการญี่ปุ่นเผชิญต้นทุนสูงขึ้น (นำเข้าวัตถุดิบ / พลังงาน / สินค้าต่างประเทศแพงขึ้น) จึงส่งผลทำให้โรงแรม ที่พักต่างๆ ร้านอาหาร บริษัททัวร์ ปรับขึ้นราคาบริการ โดยเฉพาะค่าที่พักเมืองท่องเที่ยวหลักในญี่ปุ่น ทั้งโตเกียว เกียวโต โอซาก้า มีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ยังรวมถึง ค่าเข้าชมสถานที่ / ตั๋วรถไฟอาจปรับตามระบบราคาคู่และภาวะเงินเฟ้อ
Tips
• จองที่พักล่วงหน้า โดยเฉพาะช่วง High season
• ใช้ JR Pass / Ticket แบบ Flexible หรือ Regional pass เพื่อคุ้มค่า
• หาที่พักนอกเมืองหลัก เช่น Osaka → พักที่ Nara หรือ Kobe จะถูกกว่า
ที่มา : japankuru , travel.trueid , ntv
5. ระบบคัดกรองและอนุญาตเข้าประเทศล่วงหน้า (JESTA)
ญี่ปุ่นวางแผนเริ่มใช้ระบบ Japan Electronic System for Travel Authorization (JESTA) เป็นระบบคัดกรองนักท่องเที่ยวล่วงหน้าแบบดิจิทัล คล้าย ESTA ของอเมริกา ซึ่งหมายความว่า นักท่องเที่ยวจากประเทศที่ได้รับการยกเว้นวีซ่า (รวมถึงประเทศไทย) จะต้องกรอกข้อมูลส่วนบุคคล แจ้งแผนการเดินทาง ระบุจุดประสงค์การเข้าประเทศ การให้ข้อมูลที่พักในญี่ปุ่น ข้อมูลทั้งหมดนี้จะต้องลงทะเบียนล่วงหน้าก่อนออกเดินทาง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองตรวจสอบข้อมูลต่างๆ และคัดกรองได้ก่อน ซึ่งจะบังคับใช้ในอนาคตอันใกล้ (**อาจจะเริ่มใช้หลังปี 2028) โดยการเปลี่ยนแปลงนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความปลอดภัย และประสิทธิภาพในการจัดการนักท่องเที่ยว
Tips
• ติดตามและอัปเดตข่าวระบบ JESTA อย่างใกล้ชิด /ตรวจสอบเงื่อนไขก่อนเดินทางเสมอ
• เตรียมเอกสารล่วงหน้า เช่น ข้อมูลส่วนบุคคล แผนการเดินทาง จุดประสงค์และที่พักในญี่ปุ่น
6.ภาษีที่พักใหม่ในเกียวโต สูงสุดในญี่ปุ่น
หนึ่งในเรื่องที่นักท่องเที่ยวควรรู้หากวางแผนไปเที่ยวญี่ปุ่นปี 2026 คือ เมืองเกียวโตจะเริ่มเก็บภาษีที่พักใหม่ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2026 เป็นต้นไป ตั้งแต่ 200 เยน สำหรับที่พักราคาประหยัด ไปจนถึง 10,000 เยนต่อคนต่อคืน สำหรับโรงแรมหรูที่มีราคาห้องพักเกิน 100,000 เยน/คืน นับเป็นอัตราภาษีที่พักที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มาตรการนี้ออกมาเพื่อลดปัญหา “นักท่องเที่ยวล้นเมือง” และช่วยสนับสนุนการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน
Tips
• ควรวางแผนค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หากตั้งใจไปพักในเกียวโตสำหรับโรงแรมหรู
7. การพกพา Power Bank ขึ้นเครื่อง
ญี่ปุ่นประกาศใช้กฎใหม่เกี่ยวกับการพกพา Power Bank ขึ้นเครื่องบิน เริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 เป็นต้นไป มีดังนี้
• ห้ามเก็บ Power Bank ไว้บนช่องเก็บสัมภาระเหนือศีรษะ (Overhead Compartment)
• ใช้งานบนเครื่องได้ตามปกติแต่ต้องอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นได้ตลอดเวลา เช่น ช่องเก็บของหน้าที่นั่ง
• มีความจุไม่เกิน 160 Wh หรือมีความจุระหว่าง 100–160 Wh นำขึ้นได้ไม่เกิน 2 ชิ้น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสายการบิน
ปี 2026 ญี่ปุ่นยังคงเป็นจุดหมายยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวแต่กฎใหม่ ๆ เช่น การยกเลิก Tax-Free ณ จุดขาย, ระบบราคาคู่, การจองล่วงหน้า และค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวต้องวางแผนล่วงหน้าให้รอบคอบกว่าเดิม สำหรับนักท่องเที่ยวไทย สิ่งที่ควรทำคือ ศึกษากฎใหม่และเตรียมเอกสารให้พร้อม เตรียมงบประมาณและเผื่อเวลาสำหรับขั้นตอนที่มากขึ้น
ที่มา : japankuru , travel.trueid , scmp ,
บริษัทจัดหางาน Personnel Consultant เราเป็นบริษัทจัดหางานญี่ปุ่นในกรุงเทพ ให้บริการจัดหางานและสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถทั้งชาวไทยและญี่ปุ่นมาเป็นเวลากว่า 30 ปี ท่านที่สนใจหางาน อยากทำงานบริษัทญี่ปุ่น ไทยและต่างชาติ ลงทะเบียนสมัครงานกับเพอร์ซันแนลฯ ฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่าย
ต้องการฝากประวัติ Click
สอบถามโทร 02-2608454 หรือส่งเรซูเม่ (ภาษาอังกฤษ) jobs@personnelconsultant.co.th
Contact & Follow Us