2025.10.27หางาน • สัมภาษณ์งาน

บริษัทอยากได้คนมีประสบการณ์ แต่เราเป็นเด็กจบใหม่ ควรทำอย่างไร?

จบแล้วทำอะไรต่อ? คำถามยอดฮิตที่เด็กจบใหม่ทุกคนต้องเจอ

แต่เมื่อถึงเวลาต้องเริ่มหางานจริง หลายคนอาจรู้สึกกังวลหรือท้อเล็กน้อย เมื่อเห็นประกาศรับสมัครงานที่มักเขียนว่า “ต้องมีประสบการณ์อย่างน้อย 1-2 ปี” ทั้งที่เรายังเพิ่งเริ่มต้นในเส้นทางการทำงาน และอาจเผลอคิดในใจว่า “ถ้าไม่มีใครให้โอกาสได้เริ่มทำงาน แล้วเราจะหาประสบการณ์ได้จากไหน?”

ความจริงคือ บริษัทไม่ได้มองแค่คนที่มีประสบการณ์เท่านั้น แต่ยังมองหาคนที่ มีใจพร้อมเรียนรู้ ทำงานได้จริง และเติบโตไปด้วยกันกับทีม เพราะหลายองค์กรรู้ดีว่า “ประสบการณ์สร้างได้” หากเรามีทัศนคติที่ดีและตั้งใจจริง

แม้น้องจบใหม่จะยังไม่มีประสบการณ์มาก แต่ก็สามารถแสดงให้เห็นถึง ทักษะ ความตั้งใจ และศักยภาพในการเรียนรู้ได้เร็ว เช่นกัน

บทความนี้จึงอยากชวนมาดูกันว่า หากเรายังอยู่ในจุดที่ประสบการณ์ไม่มากนัก จะทำอย่างไรให้บริษัทมองเห็นความสามารถของเราได้

1. ทำความเข้าใจคำว่า “ประสบการณ์” ที่อาจไม่ได้หมายถึงแค่การทำงานประจำเท่านั้น

หลายคนมักเข้าใจคำว่า “ประสบการณ์” ว่าต้องเคยทำงานประจำหรือมีชื่อบริษัทในเรซูเม่ถึงจะนับว่าเป็นประสบการณ์ แต่จริง ๆ แล้ว “ประสบการณ์” หมายถึง สิ่งที่เราเคยลงมือทำและได้เรียนรู้จากมัน

ประสบการณ์เหล่านั้นอาจมาจากหลายแหล่ง เช่น การฝึกงาน ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ที่ช่วยให้เราเข้าใจระบบการทำงานจริง, กิจกรรมในมหาวิทยาลัย เช่น การเป็นสตาฟอีเวนต์ในมหาวิทยาลัย การทำโปรเจกต์กลุ่ม หรือการเป็นผู้นำชมรม ซึ่งสะท้อนความรับผิดชอบและการทำงานเป็นทีม, งานพาร์ทไทม์หรืออาสาสมัคร แม้จะไม่เกี่ยวข้องกับสายงานโดยตรง แต่สามารถแสดงให้เห็นถึงทักษะที่เกี่ยวข้องกับการทำงานได้ เช่น ทักษะการสื่อสาร การจัดการเวลา 

หรือแม้แต่ การทำโครงงานหรือโปรเจกต์ส่วนตัว เช่น การสร้างเว็บไซต์ ทดลองทำแคมเปญการตลาด หรือออกแบบสินค้าต้นแบบ ก็ถือเป็นผลงานที่สามารถนำมาอ้างอิงได้

ดังนั้น หากเราเคยทำสิ่งเหล่านี้มาแล้ว อย่าเพิ่งคิดว่าตัวเอง “ไม่มีประสบการณ์” เพราะจริง ๆ แล้วเรามี เพียงแค่ยังไม่รู้วิธี “เล่า” ให้บริษัทเห็นสิ่งที่เราทำได้เท่านั้น

2. “เล่า” สิ่งที่เคยทำ ให้กลายเป็นจุดแข็งในเรซูเม่

หลายคนมักใส่ข้อมูลในเรซูเม่แบบสั้น ๆ แล้วจบที่ “เพิ่งจบการศึกษา” แต่จริง ๆ แล้ว เราสามารถดึงสิ่งที่ทำระหว่างเรียนมาเล่าให้กลายเป็นจุดแข็งได้ เช่น เป็นหัวหน้าทีมในโปรเจกต์หรืองานกลุ่ม แสดงให้เห็นทักษะการบริหารทีมและภาวะความเป็นผู้นำ, จัดงานอีเวนต์ในมหาวิทยาลัย สะท้อนทักษะการวางแผน ประสานงาน และการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า หรือ การฝึกงาน ระบุหน้าที่ที่ทำจริงและสิ่งที่ได้เรียนรู้ เช่น การใช้ Excel จัดการข้อมูล การทำรายงาน หรือการติดต่อกับลูกค้า

สิ่งสำคัญคือการเลือกใช้คำที่เน้น “ผลลัพธ์” มากกว่าการบรรยายทั่วไป เพราะจะช่วยให้บริษัทเห็นภาพชัดขึ้นว่าเราทำอะไรได้จริง และมองเห็นศักยภาพของเรามากกว่าคำว่า “ช่วยงาน” เฉย ๆ

10 Soft Skills สำหรับ First Jobber ที่ช่วยให้เรซูเม่โดดเด่นทันที

แนะนำ 5 เว็บไซต์ทำ Resume ฟรี สำหรับมือใหม่

3. แสดงให้เห็นว่าเรา “พร้อมเรียนรู้และปรับตัวได้เร็ว”

หลายองค์กรเปิดรับน้องจบใหม่ เพราะพวกเขามองหาคนที่สามารถเรียนรู้ได้เร็วและพร้อมเติบโตไปกับองค์กร แม้อาจยังไม่เก่งเท่าคนที่มีประสบการณ์ แต่มีข้อดีคือ “ยังไม่ติดกรอบ” และพร้อมปรับตัวได้หลากหลาย

ในช่วงสัมภาษณ์กับบริษัท อย่ากลัวที่จะยอมรับว่าตัวเองยังใหม่ในสายงาน แต่ควรตามด้วยประโยคที่สะท้อนทัศนคติบวกและแสดงให้บริษัทเห็นว่าเราพร้อมเรียนรู้และสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว

4. พัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่อง

ในยุคที่คอร์สเรียนออนไลน์เข้าถึงง่าย การพัฒนาตัวเองตลอดเวลาจะเป็น แต้มต่อสำคัญ

ตัวอย่างเช่น การเรียนคอร์สออนไลน์หรือได้ใบรับรอง (Certificate) ในสายงาน เช่น Excel, Power BI, Digital Marketing หรือ Business Communication จะทำให้เรซูเม่ดูมืออาชีพและเพิ่มความโดดเด่นได้

5. อย่ากลัวการเริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ

งานแรกไม่จำเป็นต้องเป็นงานในฝันเสมอไป หลายคนเริ่มจากตำแหน่งเล็ก ๆ หรือบริษัทขนาดกลาง แล้วค่อย ๆ สะสมประสบการณ์

สิ่งสำคัญคือ ได้เรียนรู้จริง และได้ฝึกใช้ทักษะในสถานการณ์จริง ประสบการณ์จากการลงมือทำจะกลายเป็นทุนที่มีค่าที่สุดในอนาคต

6. เตรียมตัวสัมภาษณ์ให้ดี

น้องจบใหม่อาจเสียเปรียบเรื่องประสบการณ์ แต่ก็สามารถเอาชนะใจผู้สัมภาษณ์ได้หากมีการเตรียมตัวสัมภาษณ์มาอย่างดี

  • ✦ ศึกษาข้อมูลบริษัท เช่น สินค้า บริการ และค่านิยมองค์กร
  • ✦ ฝึกตอบคำถามพื้นฐาน เช่น จุดแข็ง-จุดอ่อน หรือเหตุผลที่อยากทำงาน
  • ✦ ฝึกเล่าประสบการณ์ในรูปแบบ STAR (Situation – Task – Action – Result) เพื่อให้คำตอบกระชับและชัดเจน

การเตรียมตัวดีช่วยให้เราดูมั่นใจและแสดงถึงความตั้งใจ ซึ่งมักสร้างความประทับใจมากกว่าการท่องจำ

เตรียมพร้อมก่อนสัมภาษณ์งาน! เทคนิคและคำถามยอดฮิตที่ควรรู้

7. รักษาทัศนคติที่ดี

ช่วงเริ่มต้นอาชีพหลายคนอาจรู้สึกกดดัน เห็นเพื่อนได้งานเร็วหรือเงินเดือนสูงกว่า แต่จำไว้ว่า ทุกคนมีเส้นทางต่างกัน

องค์กรมักมองหาคนที่ มีทัศนคติดี เพราะจะอยู่ในองค์กรได้นานและพร้อมปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลง การรักษาความคิดเชิงบวกจึงสำคัญพอ ๆ กับทักษะ

สรุป

การที่บริษัทระบุว่า “ต้องการคนมีประสบการณ์” ไม่ได้หมายความว่าเราหมดสิทธิ์ แต่เราสามารถโชว์ ทักษะ ความตั้งใจ และศักยภาพในการเรียนรู้ ให้ตรงกับความต้องการของบริษัทได้

อย่าท้อกับคำว่า “ไม่มีประสบการณ์” เพราะทุกคนเคยเริ่มจากศูนย์ สิ่งที่จะทำให้เราแตกต่างคือ ความพยายาม และความตั้งใจที่จะไม่หยุดพัฒนา

Sources : DayWork, JobsDB, BrandCase

About Us

บริษัทจัดหางาน เพอร์ซันแนล คอนซัลแตนท์ฯ เราเป็นบริษัทจัดหางานญี่ปุ่นในกรุงเทพ  ให้บริการจัดหางานและสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถทั้งชาวไทยและญี่ปุ่นมาเป็นเวลากว่า 30 ปี ท่านที่สนใจหางาน อยากทำงานบริษัทญี่ปุ่น ไทยและต่างชาติ  ลงทะเบียนสมัครงานกับเพอร์ซันแนลฯ   ฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่าย
ต้องการฝากประวัติ https://www.personnelconsultant.co.th/jobseeker/register_jobseeker/
สอบถามโทร 02-2608454 หรือส่งเรซูเม่ (ภาษาอังกฤษ) jobs@personnelconsultant.co.th

Contact & Follow Us