คำถามที่ถูกถามบ่อยในการสัมภาษณ์งาน
คำถามที่ถูกถามบ่อยในการสัมภาษณ์งาน

ปัญหาที่สร้างความหนักใจของคนหางานอีกหนึ่งอย่างคือ “การสัมภาษณ์งาน” หลาย ๆ คนมักจะตื่นเต้น จนทำให้ผลของการสัมภาษณ์งานนั้นออกมาไม่ดีและอาจจะพลาดงานนั้นไป สำหรับมือใหม่แล้ว การสัมภาษณ์งานครั้งแรกแน่นอนว่าต้องรู้สึกกังวลและประหม่าแน่ ๆ วันนี้เราขอแนะนำการตอบคำถามในการสัมภาษณ์งานที่บริษัทส่วนมากจะถามกัน สามารถนำไปปรับใช้ในการสัมภาษณ์งานกันได้เลยนะคะ!
1. แนะนำตัวเอง

คำถามที่ดูเหมือนเป็นคำถามธรรมดา แต่จริง ๆ แล้วเป็นหนึ่งในคำถามที่สำคัญมาก ๆ โดยอาจจะเล่าถึงประวัติตัวเองคร่าว ๆ เช่น ด้านการศึกษา ประสบการณ์ฝึกงาน หรือจุดแข็งและทักษะที่สามารถนำมาใช้กับตำแหน่งงานนั้น ๆ รวมถึงเหตุผลหรือแรงบันดาลใจ (Passion) ที่ทำให้ต้องการทำงานนี้
ควรใช้โอกาสนี้แนะนำตัวเองให้ผู้สัมภาษณ์เห็นถึงความตั้งใจในการสมัครงาน โดยรักษาน้ำเสียงให้สุภาพและไม่แสดงความมั่นใจมากเกินไป การแนะนำตัวที่ดีควรใช้เวลาเพียง 3-5 นาที ก็เพียงพอแล้ว
2. บอกจุดแข็งจุดอ่อนของคุณ

ในการตอบคำถามเกี่ยวกับ จุดแข็ง สามารถยกตัวอย่าง “สกิล” ที่ตรงกับความต้องการของบริษัท และอธิบายเพิ่มเติมว่าสามารถนำทักษะนั้นมาใช้สร้างความสำเร็จให้กับบริษัทได้อย่างไร
นอกจากนี้ อาจเลือกตอบในส่วนของ ซอฟต์สกิล (Soft Skills) เช่น การทำงานเป็นทีม การสื่อสาร หรือทักษะการประสานงาน ก็เป็นอีกทางเลือกที่ดี เพราะช่วยให้ผู้สัมภาษณ์เห็นภาพว่าคุณสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างราบรื่น
ส่วนการตอบคำถามเรื่อง “จุดอ่อน” หากเราตอบว่าไม่มีมันก็จะดูเกินจริงไปหน่อย ควรตอบอย่างจริงใจว่ามี แต่เป็นจุดอ่อนที่สามารถพัฒนาให้ดีขึ้นได้ในอนาคต
ตัวอย่างเช่น อาจกล่าวว่ากำลังฝึกปรับปรุงการบริหารเวลา หรือการกล้าแสดงความคิดเห็นในที่ประชุมมากขึ้น เป็นต้น
สิ่งสำคัญคืออย่าตอบในลักษณะที่ทำให้ผู้ฟังรู้สึกว่าคุณไม่สามารถพัฒนาได้เลย และควรวิเคราะห์ลักษณะของตำแหน่งที่สมัคร เพื่อให้คำตอบของคุณสอดคล้องและสะท้อนศักยภาพในการเติบโตในบทบาทนั้นได้อย่างเหมาะสม
3. ทำไมถึงเลือกบริษัทเรา และ/หรือ ทำไมคุณจึงเหมาะสมที่จะทำงานนี้

จริง ๆ แล้ว เราอาจไม่สามารถรู้ได้แน่ชัดว่าตัวเอง “เหมาะสม” กับตำแหน่งนั้นหรือไม่ แต่สิ่งที่ควรทำคือ ตอบโดยมุ่งเน้นไปที่ทักษะเฉพาะและประสบการณ์ ที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานนั้นให้มากที่สุด
อธิบายให้เห็นว่าทักษะเหล่านั้นสามารถช่วยให้คุณทำงานได้ดีและสร้างประโยชน์ให้กับทีมอย่างไร
นอกจากนี้ คุณสามารถพูดถึง เหตุผลที่คิดว่าจะชอบการทำงานที่นี่ เช่น วัฒนธรรมองค์กรของบริษัทที่สอดคล้องกับบุคลิกหรือลักษณะการทำงานของคุณ การให้ความสำคัญกับการพัฒนา หรือบรรยากาศการทำงานที่ตรงกับค่านิยมส่วนตัว เป็นต้น
คำตอบในลักษณะนี้จะแสดงให้เห็นถึง “ความเข้าใจในตัวเอง” และ “ความตั้งใจจริง” ที่อยากร่วมงานกับบริษัท มากกว่าการพยายามทำให้ดูว่าตัวเองสมบูรณ์แบบค่ะ
4. คุณมองภาพตัวเองอย่างไรในอีก 5 ปีข้างหน้า

คำถามนี้เป็นโอกาสให้บริษัทเห็นความทะเยอทะยานของคุณ อย่าตอบเพียงแค่ว่าอยากอยู่ในตำแหน่งนี้หรืออยากทำงานที่นี่เท่านั้น เพราะจะดูเหมือนไม่ได้มีเป้าหมายระยะยาวที่ชัดเจน ควรแสดงให้เห็นว่าคุณพร้อมที่จะทุ่มเท ทำงานหนัก และเติบโตไปพร้อมกับบริษัท เช่น การพัฒนาทักษะและเติบโตไปพร้อมกับองค์กร มองหาความท้าทายใหม่ ๆ เพื่อเรียนรู้และสร้างคุณค่า (Value Creation) ให้กับบริษัท รวมถึงเน้นให้เห็นว่าโอกาสการเติบโตในบริษัทสอดคล้องกับเป้าหมายอาชีพระยะยาวของคุณ คำตอบลักษณะนี้จะทำให้ผู้สัมภาษณ์เห็นว่าคุณมีแรงจูงใจ ความตั้งใจจริง และมุมมองต่ออนาคตที่ชัดเจนค่ะ
5. ทำไมคุณถึงลาออกจากที่ทำงานเดิม

คำถามนี้ถือเป็นคำถามที่ยากสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ทำงานมาแล้ว และเป็นคำถามที่ตรงประเด็นมาก จึงจำเป็นต้องเตรียมตัวอย่างรอบคอบ สิ่งสำคัญคือ ไม่ควรนำข้อเสียหรือพูดเชิงลบเกี่ยวกับที่ทำงานเดิม มาอธิบาย เพราะการทำเช่นนั้นอาจทำให้ความน่าเชื่อถือของคุณลดลง ควรตอบในเชิงบวก โดยเน้นว่าคุณเหมาะสมกับตำแหน่งงานนี้อย่างไร พร้อมแสดงทักษะ ประสบการณ์ และแรงจูงใจที่สอดคล้องกับความต้องการของบริษัท
6. คุณมีคำถามอะไรไหม

อย่ารีบร้อนตอบว่า “ไม่มี” อย่างน้อยให้เราเตรียมคำถามไปบ้างเหมือนกัน ไม่ต้องถามเยอะเกินไป แต่ต้องมีบ้าง ปกติผู้สัมภาษณ์จะถามคำถามนี้เมื่อใกล้จะจบการสัมภาษณ์ หรืออาจจะเป็นคำถามสุดท้ายเลย ดังนั้น นี่เป็นโอกาสท้ายสุดเหมือนกันที่คุณจะได้แสดงออกว่า คุณมีการเตรียมตัวและกระตือรือร้น รวมถึงเป็นโอกาสให้คุณหาข้อมูลเพิ่มเติมหากคุณได้รับงานนี้จริง ๆ ตัวอย่างคำถาม เช่น ถ้าได้รับงานนี้ บริษัทอยากเห็นความสำเร็จแบบไหนจากเรา หากผ่านสัมภาษณ์งานอยากให้เริ่มงานเมื่อไหร่ หรือวัฒนธรรมองค์กรที่นี่เป็นอย่างไร เป็นต้น
7. คำถามทั่วไปและอื่น ๆ

นอกจากคำถามด้านบนแล้ว บริษัทอาจมีคำถามเพิ่มเติม เช่น “คุณสามารถทำงานล่วงเวลาได้ไหม” แม้จริง ๆ แล้วเราอาจไม่สะดวก แต่ควรตอบให้แสดงถึงความพร้อมและความยืดหยุ่นในการทำงานล่วงเวลา หรือ “งานอดิเรกของคุณคืออะไร” บริษัทอยากรู้ว่าคุณสามารถบริหารเวลาได้ดีแค่ไหน และบุคลิกของคุณเป็นอย่างไร การพูดถึงงานอดิเรกที่สร้างสรรค์หรือเป็นประโยชน์จะช่วยให้ภาพลักษณ์ของคุณดีขึ้น นอกจากนี้ยังอาจมีคำถามเกี่ยวกับข่าวสารปัจจุบัน เพื่อแสดงว่าคุณติดตามเหตุการณ์บ้านเมืองและสามารถพูดคุยเรื่องเหตุการณ์ปัจจุบันได้ แม้จะเป็นคำถามเพิ่มเติม แต่ก็สามารถช่วยเพิ่มคะแนนในการสัมภาษณ์ได้เช่นกัน
การสัมภาษณ์แต่ละครั้งย่อมแตกต่างกันไป คำถามที่ถูกถามอาจตรงหรือไม่ตรงกับตัวอย่างที่ให้มา แต่การเตรียมตัวเพื่อตอบคำถามเหล่านี้จะช่วยให้คุณพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ ลดความวิตกกังวล และสามารถคิดคำตอบที่ดีและเหมาะสมที่สุดได้ เรียกได้ว่า “เตรียมตัวดีมีชัยไปกว่าครึ่ง” สำหรับใครที่กำลังจะมีสัมภาษณ์เร็ว ๆ นี้ สามารถนำแนวทางนี้ไปปรับใช้และฝึกถามตอบล่วงหน้า รับรองว่าจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการสัมภาษณ์ได้มากขึ้นแน่นอน
บทความอื่น ๆ เพิ่มเติม https://www.personnelconsultant.co.th/jobseeker/knowledge/
บริษัทจัดหางาน เพอร์ซันแนล คอนซัลแตนท์ฯ เราเป็นบริษัทจัดหางานญี่ปุ่นในกรุงเทพ ให้บริการจัดหางานและสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถทั้งชาวไทยและญี่ปุ่นมาเป็นเวลากว่า 30 ปี ท่านที่สนใจหางาน อยากทำงานบริษัทญี่ปุ่น ไทยและต่างชาติ ลงทะเบียนสมัครงานกับเพอร์ซันแนลฯ ฟรี!! ไม่มีค่าใช้จ่าย
ต้องการฝากประวัติ https://www.personnelconsultant.co.th/jobseeker/register_jobseeker/
สอบถามโทร 02-2608454 หรือส่งเรซูเม่ (ภาษาอังกฤษ) jobs@personnelconsultant.co.th
Contact & Follow Us
